ความสำเร็จแห่งความทุ่มเท: บาร์โบซูคว้าเหรียญทองแดงคืนได้สำเร็จ ส่งกำลังใจให้ไชล์สและวอยเนีย

การแข่งขันยิมนาสติกศิลป์หญิงในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ได้ให้ความเชื่อมั่นว่ากีฬาแห่งนี้ยังคงแทรกด้วยดราม่าและความไม่ยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ความฟ้าดินถล่มที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้นักกีฬาคนอื่นได้รับผลกระทบในทางที่ไม่คาดคิดมาก่อน

ความพยายามที่ไม่ย่อท้อนำไปสู่ความสำเร็จ

ความยืนหยัดของบาร์โบซู

นักยิมสาวจากโรมาเนีย อนา บาร์โบซู ได้แสดงให้เห็นถึงความแกร่งและความสามารถของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อเธอได้รับเหรียญทองแดงที่ถูกเรียกคืนจากจอร์แดน ไชล์ส จากสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ซีเอเอสมีคำตัดสินว่าการประท้วงของโค้ชไชล์สนั้นเป็นโมฆะ บาร์โบซูให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่คาดคิดว่าเหรียญรางวัลจะมีน้ำหนักหนักขนาดนี้ แต่เธอก็พร้อมที่จะ "สวมใส่ทั้งวันทั้งคืน" หากนั่นคือสิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้ได้เหรียญรางวัล สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจากสหพันธ์ยิมนาสติกของโรมาเนียและทีมกฎหมายที่ไม่ยอมแพ้

การให้กำลังใจแก่เพื่อนร่วมทีม

แม้ว่าบาร์โบซูจะมีความสุขที่ได้รับเหรียญทองแดง แต่เธอก็ยังมีความเอ็นดูและกังวลใจในเพื่อนร่วมทีมชาติคนอื่น ๆ เช่น ซาบริน่า มาเนก้า-วอยเนีย ที่ได้รับผลกระทบจากคำตัดสินของกรรมการเช่นกัน และ จอร์แดน ไชล์ส ผู้ถูกเรียกเหรียญคืน บาร์โบซูกล่าวว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รวมทั้งอารมณ์ร่วมที่ท่วมท้น ซึ่งเธอหวังว่าในวันข้างหน้า ทั้ง 3 คนนี้จะได้ครองเหรียญทองแดงร่วมกัน

ความหวังและแรงบันดาลใจจากเหรียญรางวัล

ถึงแม้ว่าบาร์โบซูจะชื่นชมความยุติธรรมที่ได้เข้ามา แต่เธอยังคงกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เพราะนักกีฬาต่างก็คาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ของกีฬาโอลิมปิกจะทำหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บาร์โบซูมีความสุขและภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของโรมาเนียในระดับที่สูงที่สุด และหวังว่าจะสามารถนำเหรียญรางวัลมอบให้กับบ้านเกิดของเธอได้อีกหลายครั้งในอนาคต

เทนนิสคว้าเหรียญทอง ก้าวสู่ฝัน "โอลิมปิก แอลเอ 2028"

เทนนิส ฮีโร่โอลิมปิก ร่วมเสวนากับนักกีฬาดาวรุ่งระดับตำนาน เปิดเผยประสบการณ์ก้าวสู่ความสำเร็จ พร้อมตั้งเป้าหมายสู่ฝันใหญ่ "โอลิมปิก แอลเอ 2028"

ความสำเร็จทางโอลิมปิกกำลังขับเคลื่อนกีฬาไทยสู่อนาคตอันสดใส

ก้าวสู่ความสำเร็จด้วยการเสียสละและอุทิศตัว

เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย เผยถึงเส้นทางสู่ความสำเร็จว่า การตกเป็นแชมป์โอลิมปิกต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของร่างกายที่เจ็บตามจุดต่างๆ มากมาย แต่ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะสร้างความสำเร็จให้กับประเทศชาติ ครอบครัว และตัวเอง จากนี้จะอยู่ในฐานะกองเชียร์ และหวังว่าทัพนักกีฬาไทยจะได้เหรียญทองในแอลเอเกมส์ในอีก 4 ปีข้างหน้า

ยังคงตั้งเป้าหมายเพื่อฝันใหญ่ในโอลิมปิกครั้งต่อไป

บี จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิงเหรียญทองแดงโอลิมปิก รุ่น 66 กิโลกรัม กล่าวว่า ความฝันโอลิมปิกยังคงดำเนินต่อไป และจะตั้งใจฝึกซ้อมต่อเนื่องทันทีเพื่อไปแอลเอ พร้อมสู้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยเฉพาะ อิมาเน่ เคลิฟ มวยคนดังจากแอลจีเรีย และสิ่งที่อยากกินตอนนี้คือ ผัดเผ็ดปลาไหลฝีมือพ่อ ก็ยังรอกลับบ้านก่อน เพราะยังต้องฉลองความสำเร็จในกรุงเทพ

รุ่นเยาว์กำลังมาแรง พร้อมคว้าชัยในเวทีโอลิมปิก

วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเก็ตบอร์ดสาววัย 12 ปี ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาอายุน้อยที่สุดของทัพนักกีฬาไทยที่ไปโอลิมปิกเกมส์ รอบ 72 ปี กล่าวว่า อยากเห็นทุกคนมาเล่นสเก็ตบอร์ดกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้กีฬานี้เป็นที่แพร่หลาย และไปโอลิมปิกเพื่อชื่อเสียงของประเทศ ส่วนตัวของเธอก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะไปฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่น เพราะมีนักกีฬาขวัญใจที่เก่งระดับแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกอยู่ที่นั่นเพื่อพัฒนาฝีมือของตัวเองต่อไป

ผู้บริหารและโค้ชตั้งเป้าหมายสู่โอลิมปิก แอลเอ 2028

นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า การเตรียมพร้อมสู่โอลิมปิกที่ฝรั่งเศส แม้จะมีอุปสรรคบ้างแต่ก็ถือว่าเจ้าภาพพยายามเต็มที่แล้ว โดยให้คะแนนการจัดงานอยู่ที่ 7 เต็ม 10 และหลังจากนี้จะเตรียมแผนงานเพื่อ 4 ปีข้างหน้าไว้แล้ว เพื่อไปป้องกันแชมป์โอลิมปิก โดยในรุ่น 49 กก.มีตัวแทนที่จะก้าวขึ้นมาอย่างน้อย 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นแชมป์เยาวชนโลก

กำลังใจจากแฟนกีฬาเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จ

ชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันของ เทนนิส ครั้งนี้ท่ามกลางกองเชียร์สนามใหญ่ถือว่ามีผลมากๆ แต่เธอก็ควบคุมตัวเองจนกลับมาได้ โดยหลังจบรอบแรก ได้คุยกับนายกสมาคมฯ และหมอจิตวิทยาช่วยเติมพลัง และในเรื่องการชาเลนจ์นั้น ทีมก็ทำงานร่วมกันจนสำริดผล

ปรับตัวเทรนด์กีฬาเพื่อสู้ศึกโอลิมปิก

พันตำรวจโทวิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยสากลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า สมัยที่เป็นนักมวยกับการเป็นโค้ชมีความแตกต่างกันมากทั้งในด้านความยากลำบากและกลยุทธ์ในการแข่งขัน โดยการชกของนักมวยไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนไปตามการให้คะแนนที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องขยันออกหมัดให้มากกว่าเดิมเพื่อรับคะแนน