กีฬา
BITE SIZE : ทัพนักกีฬาไทย คว้าเหรียญโอลิมปิก ได้เงินอัดฉีดเท่าไร ?
2024-08-10
ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกปารีส 2024 ได้รับเงินรางวัลมหาศาล
ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกปารีส 2024 ได้รับเงินรางวัลมหาศาล
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้ปิดฉากลงแล้ว ทัพนักกีฬาไทยที่ลุยศึกครั้งนี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ นอกจากความสำเร็จในสนามแข่งขันแล้ว เรื่องที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คือ เงินรางวัลมหาศาลที่นักกีฬาไทยจะได้รับจากการคว้าเหรียญรางวัลเงินรางวัลมหาศาลรอคอยนักกีฬาไทย
เงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ
นักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิก จะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในอัตราที่สูงมาก โดยเหรียญทองจะได้รับสูงสุด 12 ล้านบาท เหรียญเงินได้รับสูงสุด 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดงได้รับสูงสุด 4.8 ล้านบาท นักกีฬาสามารถเลือกรับเงินรางวัลแบบเงินก้อนจ่ายครั้งเดียว หรือแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งหากเลือกรับแบบเงินก้อนจะได้รับเงินรางวัลที่ลดลงเหลือ 10 ล้านบาท 6 ล้านบาท และ 4 ล้านบาท ตามลำดับเงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย
นอกจากเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติแล้ว นักกีฬาโอลิมปิกที่คว้าเหรียญรางวัลยังจะได้รับเงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เป็นระยะเวลา 20 ปี หรือ 240 เดือน โดยเหรียญทองจะได้รับเดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงินได้รับเดือนละ 10,000 บาท และเหรียญทองแดงได้รับเดือนละ 8,000 บาท ซึ่งเมื่อคำนวณตลอด 20 ปี จะเป็นเงินรวม 2.88 ล้านบาท 2.4 ล้านบาท และ 1.92 ล้านบาท ตามลำดับเงินรางวัลให้กับสมาคมกีฬาและบุคลากรกีฬา
นอกจากเงินรางวัลที่นักกีฬาจะได้รับแล้ว กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติยังจะมอบเงินรางวัลให้กับสมาคมกีฬาของนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ในอัตรา 30% ของเงินรางวัลทั้งหมดที่นักกีฬาได้รับ แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท และจะมอบเงินรางวัลให้กับบุคลากรกีฬาของสมาคมกีฬาที่มีหน้าที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน ในอัตรา 20% ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ สำหรับประเภทบุคคลทั่วไปและทีมที่มีนักกีฬาไม่เกิน 6 คน และ 10% ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ สำหรับทีมที่มีนักกีฬาตั้งแต่ 7 คนขึ้นไปกองทุนกีฬาฯ ไม่ได้ใช้แค่เพื่อจ่ายเงินอัดฉีด
กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีแหล่งรายได้หลักมาจากภาษีสรรพสามิต โดยมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 กำหนดให้จัดเก็บ 2% ของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบ มาเป็นเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเงินดังกล่าวไม่ได้ใช้เพื่อเป็นเงินรางวัลแก่นักกีฬาโอลิมปิกอย่างเดียว แต่ยังจ่ายเงินรางวัลให้กับนักกีฬาในมหกรรมกีฬาอื่น ๆ อีกด้วย และยังนำไปใช้ในการดำเนินกิจกรรมกีฬาทั้งในระดับชาติและนานาชาติ การพัฒนานักกีฬา บุคลากร และสมาคมกีฬา รวมถึงสวัสดิการสำหรับนักกีฬาไม่ต้องเสียภาษีเงินรางวัล
เงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เอเชียนเกมส์ และซีเกมส์ รวมถึงกีฬาผู้พิการ พาราลิมปิกเกมส์ เอเชียนพาราเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ ได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น 10 ล้านบาทแรก หรือส่วนที่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่างประเทศอัดฉีดนักกีฬาเยอะกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ พบว่า ประเทศในแถบเอเชียมีการอัดฉีดเงินรางวัลให้นักกีฬาในอัตราที่สูงมาก โดยฮ่องกงอัดฉีดสูงสุดถึง 768,000 ดอลลาร์สหรัฐ สิงคโปร์อัดฉีดสูงสุด 745,000 ดอลลาร์สหรัฐ อินโดนีเซียอัดฉีดสูงสุด 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมาเลเซียอัดฉีดสูงสุด 216,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาอัดฉีดสูงสุด 38,000 ดอลลาร์สหรัฐ เยอรมนีอัดฉีดสูงสุด 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ และออสเตรเลียอัดฉีดสูงสุด 13,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากเงินรางวัลแล้ว นักกีฬาในบางประเทศยังได้รับรางวัลอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์ ตั๋วโดยสารฟรีตลอดชีวิต หรือเงินบำนาญตลอดชีวิต