ปารีสเปิดโอกาสให้โอลิมปิกสร้างประวัติศาสตร์ใหม่

การจัดงานโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นมหกรรมกีฬาสากลที่ยิ่งใหญ่และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก ด้วยการจัดพิธีเปิดที่แตกต่างจากเดิม โดยใช้สายน้ำเป็นตัวเล่าเรื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน และนำเสนอความเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกของกรุงปารีส ขณะที่นักกีฬาไทยก็สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

ปารีสเปิดโอกาสให้โอลิมปิกสร้างประวัติศาสตร์ใหม่

พิธีเปิดโอลิมปิกนอกสนามกีฬาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

การจัดพิธีเปิดโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โดยเจ้าภาพได้เลือกใช้สายน้ำเป็นตัวเล่าเรื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน และนำเสนอความเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกของกรุงปารีส อาทิ นครปารีส, หอไอเฟล, ศาลาว่าการกรุงปารีส, มหาวิหารนอเทรอดาม, พิพิธภัณฑ์ลูฟว์, จัตุรัสคองคอร์ด, พิพิธภัณฑ์ออร์เซ เป็นต้น การจัดพิธีเปิดนอกสนามกีฬาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โอลิมปิก ทำให้งานมีความยิ่งใหญ่และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกการจัดพิธีเปิดในครั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากศิลปินระดับโลก อาทิ เซลีน ดิออน และเอดิต ปียัฟ ที่มาร่วมแสดงเพื่อส่งพลังและความรักให้กับงาน นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบสนามแข่งขันที่เน้นความยั่งยืน โดยใช้พื้นที่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และพัฒนาย่านที่มีรายได้น้อยในกรุงปารีสมาสร้างเป็น "หมู่บ้านนักกีฬา" เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและเพิ่มมูลค่าจากพื้นที่ด้วยความคิดสร้างสรรค์

นักกีฬาไทยสร้างประวัติศาสตร์ในโอลิมปิก 2024

นักกีฬาไทยสร้างชื่อเสียงและสร้างประวัติศาสตร์ในการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส โดยมีนักกีฬาหลายคนที่ประสบความสำเร็จ อาทิ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวที่คว้าเหรียญเงิน, ฟ่าง-ธีรพงศ์ ศิลาชัย นักยกน้ำหนักที่คว้าเหรียญเงิน และพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดที่คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 2ความสำเร็จของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้โรงเรียนและแบรนด์ที่เกี่ยวข้องได้รับการกล่าวขานมากขึ้นด้วย อาทิ โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด และแบรนด์ขนมบ้านทองหยอด ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนักกีฬาแบดมินตัน รวมถึงยาดมสมุนไพรไทยกระปุกสีเขียวที่ใช้โดย ฟ่าง-ธีรพงศ์ ศิลาชัย

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สร้างตำนานเป็นแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกสมัยที่ 2

หนึ่งในนักกีฬาไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ในโอลิมปิก 2024 คือ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดรุ่น 49 กิโลกรัม ที่คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งถือเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้เหรียญโอลิมปิกถึง 3 เหรียญ นอกจากนี้ เธอยังได้รับชัยชนะในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันเกิดของเธอ (8 สิงหาคม) ทำให้ความสำเร็จในครั้งนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้นนอกจาก พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แล้ว นักกีฬาไทยคนอื่น ๆ ก็สร้างชื่อเสียงและสร้างประวัติศาสตร์ในโอลิมปิก 2024 เช่นกัน อาทิ วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตัน, ฟ่าง-ธีรพงศ์ ศิลาชัย นักยกน้ำหนัก, เวฟ-วีรพล วิชุมา, บี-จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง และ ออย-สุรจนา คำเบ้า ซึ่งรวมกันคว้าเหรียญรางวัลมาได้ถึง 6 เหรียญ ทำให้ชื่อเสียงของนักกีฬาไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องในระดับโลก

ตลาดนัดคนข่าวกีฬา: เปิดโลกแห่งความบันเทิงและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักกีฬาในดวงใจ

ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ จัดงาน "ตลาดนัดคนข่าวกีฬา" ปีที่ 3 เพื่อสนับสนุนการสร้างรายได้เสริมให้กับนักข่าวกีฬาและครอบครัว โดยให้พื้นที่จำหน่ายสินค้าและแสดงความสามารถด้านอื่น ๆ อาทิ การทำอาหาร งานประดิษฐ์ ระหว่างวันศุกร์ที่ 16 – วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 ณ ลานกิจกรรมปทุมวัน ฮอลล์

ค้นพบความสุขและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักกีฬาในดวงใจ

ชิมช้อปจุใจกับสินค้าคุณภาพจากคนข่าวกีฬา

ภายในงานมีสินค้าดีมีคุณภาพมากมายให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชิมและช้อป อาทิ บูธร้านอาเฟงลี่ ที่ชวนชิมกุยช่ายหมีสูตรโบราณที่แรกของโลก, บูธร้านโกบุ้น ที่ชวนดื่มด่ำกาแฟโบราณและขนมปังปิ้งโบราณ, บูธร้านมินิกิมหยง ที่ชวนฟินกับหมูฝอย บ๊วย Tik Tok คุกกี้กระป๋อง ถั่วหิมพานต์ ลูกหยี ถั่วรัดเอว, บูธร้าน Artcheery Bakery ที่ชวนชิมคุกกี้และบราวนี่, บูธร้าน จั๊บใจเกื้อ ที่ชวนอิ่มกับก๋วยจั๊บญวนเส้นสด, บูธร้าน Orange Queen ที่ชวนสดชื่นกับน้ำส้มคั้นบรรจุขวด, และบูธร้าน ยิ้ม คิทเช่น ที่ชวนชิมเมี่ยงสมุนไพร (เมี่ยงคำ) และขนมเทียนโบราณ นอกจากนี้ยังมีสินค้าผ้าแฟชัน เอกแซสเซอรี่ เสื้อผ้ามือ 2 ของใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรองเท้า และของสะสมจากบูธต่าง ๆ อีกมากมาย

ใกล้ชิดนักกีฬาในดวงใจผ่านกิจกรรมบนเวที

ภายในงานยังมีกิจกรรมความบันเทิงบนเวทีที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใกล้ชิดนักกีฬาในดวงใจ โดยเฉพาะในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 15.00 น. จะมีการจัดเสวนาในหัวข้อ "ทิศทางวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยจะเดินอย่างไรต่อจากนี้" โดยมี โค้ชอ๊อต เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย และ เอ๋ บุษบรรณ จันทรารังษี อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และทิศทางของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย โดยมี นิก ธีร์ธวัช กาญจน์วารีทิพย์ ผู้บรรยายและผู้ดำเนินรายการวอลเลย์บอลรุ่นใหม่ เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

ค้นหาข้อมูลและติดตามกิจกรรมเพิ่มเติม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์เซ็นเตอร์ 1285 และติดตามกิจกรรมและโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ที่ https://mbk-center.co.th/ หรือเฟซบุ๊กเพจ mbkcenterth และอินสตาแกรม mbkcenter