กีฬา
ส่องกีฬาใหม่ โอลิมปิกครั้งที่34 แอลเอเกมส์2028 มีอะไรเพิ่มมาบ้าง
2024-08-13

โอลิมปิกเกมส์ 2028: ความยิ่งใหญ่ที่ลอสแอนเจลิส

หลังจากปิดฉากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ความตื่นเตรียมสำหรับการจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไปที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2028 ได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งจะเป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 3 ของเมืองนี้ หลังจากเคยเป็นเจ้าภาพในปี 1932 และ 1984 โดยการแข่งขันในครั้งนี้จะมีความยั่งยืนและการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก พร้อมทั้งมีการเพิ่มกีฬาใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันด้วย

ความยิ่งใหญ่ที่ลอสแอนเจลิสรอคอย

การเตรียมความพร้อมสู่โอลิมปิกเกมส์ 2028

ฝ่ายจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่ลอสแอนเจลิส ได้เน้นย้ำถึงความยั่งยืนและการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องสร้างอาคารถาวรใหม่ ซึ่งรวมถึงสนามกีฬาเหย้าของทีมฟุตบอล แอลเอ กาแล็กซี่ และ แอลเอ เม็มโมเรียล โคลอสเซี่ยม ที่เคยจัดโอลิมปิกมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีสนามแข่งขันอื่นๆ อาทิ โซไฟ สเตเดียม, ยูเอสซี สปอร์ต เซ็นเตอร์, อิงเกิล อารีน่า และ อารีน่า ลองบริช ที่เตรียมไว้ใช้สำหรับการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ 2028

กีฬาใหม่ที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน

นอกเหนือจากกีฬาหลักๆ ที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว โอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่ลอสแอนเจลิสยังจะมีการเพิ่มกีฬาใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันด้วย อาทิ คริกเก็ต, ลาครอส, เบสบอล/ซอฟต์บอล, สควอช และแฟลกฟุตบอล โดยกีฬาเหล่านี้จะถูกนำมาจัดการแข่งขันในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้เหมาะสมกับการจัดการแข่งขันในระดับโอลิมปิก นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มกีฬาพาราลิมปิกประเภทใหม่อย่าง พาราไคลม์บิง เข้ามาด้วย

ความคาดหวังและความตื่นเต้นสำหรับโอลิมปิกเกมส์ 2028

การที่ลอสแอนเจลิสได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 2028 นับเป็นความภาคภูมิใจและความตื่นเต้นอย่างมากสำหรับเมืองนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงประวัติศาสตร์การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของลอสแอนเจลิสในอดีต ซึ่งได้รับการยกย่องว่าจัดการแข่งขันได้อย่างประสบความสำเร็จ ความคาดหวังจึงสูงมากว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะสร้างความประทับใจให้กับนักกีฬา ผู้ชม และผู้ติดตามการแข่งขันทั่วโลกอีกครั้ง
กรมพลศึกษา จัดกิจกรรมแข่งขันรูปแบบออกกำลังกายได้แชมป์ 2 รายการ
2024-08-12

การส่งเสริมสุขภาพและความแข็งแรงของผู้สูงอายุผ่านกิจกรรมออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น

กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดกิจกรรมการประกวดต้นแบบบริหารกายหน้าเสาธง และการประกวดรูปแบบการออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ ประจำปี 2567 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย มีสุขภาพและสมรรถภาพทางกายที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ให้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา และสอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น

ส่งเสริมสุขภาพและความแข็งแรงของผู้สูงอายุด้วยกิจกรรมออกกำลังกายที่เหมาะสม

การประกวดต้นแบบบริหารกายหน้าเสาธง

การประกวดต้นแบบบริหารกายหน้าเสาธงในครั้งนี้ มีโรงเรียนจากทั่วประเทศส่งคลิปวิดีโอเข้าร่วมการประกวดจำนวน 34 ทีม และผ่านเกณฑ์การพิจารณาเข้ามารอบสุดท้าย 10 ทีม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตื่นตัวของสถานศึกษาในการส่งเสริมให้นักเรียนได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชุมชน โดยผลการประกวดปรากฏว่า โรงเรียนวัดบึงทองหลาง (พิทักษ์วิทยาคาร) กรุงเทพมหานคร คว้ารางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ และยังได้รับรางวัลขวัญใจมหาชน รับเงินรางวัลอีก 10,000 บาท

การประกวดรูปแบบการออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ

ในส่วนของการประกวดรูปแบบการออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ มีทีมผู้สูงอายุจากทั่วประเทศสนใจส่งคลิปเข้าประกวดจำนวน 43 ทีม โดยคณะกรรมการตัดสินได้คัดเลือกทีมเพื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จำนวน 10 ทีม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความสร้างสรรค์ของกิจกรรมการออกกำลังกายที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ ผลการประกวดปรากฏว่า ทีมชุมแพ จังหวัดขอนแก่น คว้ารางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่

การส่งเสริมสุขภาพและความแข็งแรงของผู้สูงอายุ

การจัดกิจกรรมการประกวดในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมพลศึกษาในการส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย มีสุขภาพและสมรรถภาพทางกายที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญและต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา และสอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป
See More
โอลิมปิก 2024 อัพเดตเงินอัดฉีดนักกีฬา รัฐ-เอกชนเปย์อะไรบ้าง ?
2024-08-12

ทัพนักกีฬาไทยคว้า 6 เหรียญโอลิมปิก 2024 รับรางวัลอัดฉีดจากรัฐและเอกชนอย่างคับคั่ง

ทัพนักกีฬาไทยสร้างความภูมิใจให้คนไทยด้วยการคว้า 6 เหรียญรางวัลในการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนต่างพร้อมมอบรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาเหล่านี้อย่างคับคั่ง ทั้งเงินรางวัล เงินเดือน และสิ่งของต่างๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการสร้างความสำเร็จให้กับประเทศชาติต่อไป

ภูมิใจในความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทย

ภาครัฐอัดฉีดเงินรางวัลและเงินเดือนให้นักกีฬา

ภาครัฐได้มอบเงินรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 ทั้ง 6 เหรียญ โดยเทนนิส พาณิภัค ผู้คว้าเหรียญทองในการแข่งขันเทควันโดหญิง ได้รับเงินรางวัลสูงถึง 12 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่าย หรือ 10 ล้านบาท หากเลือกรับเป็นเงินก้อน นอกจากนี้ยังได้รับเงินเดือนจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยอีกเดือนละ 12,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี รวมเป็นเงิน 2.88 ล้านบาทวิว กุลวุฒิ ผู้คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันแบดมินตันชายเดี่ยว ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุน 7.2 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่าย หรือ 6 ล้านบาท หากเลือกรับเป็นเงินก้อน และได้รับเงินเดือนในฐานะนักกีฬาเหรียญโอลิมปิกอีกเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาทธีรพงศ์ ศิลาชัย และ วีรพล วิชุมา ผู้คว้าเหรียญเงินในการแข่งขันยกน้ำหนัก ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนคนละ 7.2 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่าย หรือ 6 ล้านบาท หากเลือกรับเป็นเงินก้อน และได้รับเงินเดือนในฐานะนักกีฬาเหรียญโอลิมปิกอีกคนละ 10,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 20 ปี รวมคนละ 2.4 ล้านบาทจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง และ สุรจนา คำเบ้า ผู้คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหญิง และยกน้ำหนักหญิง รุ่น 49 กิโลกรัม ได้รับเงินรางวัลอัดฉีดคนละ 4.8 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่าย หรือ 4 ล้านบาท หากเลือกรับเป็นเงินก้อน และได้รับเงินเดือนในฐานะนักกีฬาเหรียญโอลิมปิกอีกคนละ 8,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 20 ปี รวมคนละ 1.92 ล้านบาทนอกจากนี้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง จะได้รับเงินสดเพิ่มอีก 1 ล้านบาท จาก "นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม" ประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เมื่อกลับถึงประเทศไทย

ภาคเอกชนมอบรางวัลอัดฉีดและสิ่งของให้นักกีฬา

ภาคเอกชนต่างพร้อมมอบรางวัลอัดฉีดและสิ่งของให้กับนักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 อย่างคับคั่ง โดยบมจ.โอสถสภา มอบเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาเหรียญโอลิมปิกทุกเหรียญ โดยเหรียญทอง รับเงินอัดฉีดเหรียญละ 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท และเหรียญทองแดง 3 แสนบาทบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น มอบเงินรางวัล 1.5 ล้านบาท แก่ วิว กุลวุฒิ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย และมอบเงินสนับสนุน 300,000 บาท แก่ เมย์ รัชนก อินทนนท์บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ มอบคอนโดมิเนียม โครงการเฟล็กซี่ (Flexi) รัตนาธิเบศร์ 1 ห้องนอน มูลค่า 2.505 ล้านบาท ให้กับ วิว กุลวุฒิบจก.สมุนไพรหงส์ไทย มอบเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาทุกเหรียญรางวัล เหรียญละ 200,000 บาท (รวม 1.2 ล้านบาท) พร้อมมอบผลิตภัณฑ์สมุนไพร จำนวน 1,200 โหล ให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารมอบมื้ออาหารเป็นรางวัลอัดฉีดให้กับนักกีฬา เช่น สุกี้จินดา ให้ วิว กุลวุฒิ รับประทานฟรี 1 ปี 40 สาขาทั่วประเทศ, โกเบนซ์ข้าวต้มแห้งภูเก็ต ให้ เทนนิส พาณิภัค และ "โค้ชเช-ชัชชัย เช" รับประทานอาหารที่ร้านฟรีตลอดชีวิต, บอนชอน ไก่ทอดสไตล์เกาหลี ให้นักกีฬาที่คว้าเหรียญโอลิมปิก 2024 ทุกคน กินไก่ทอดฟรี 1 ปีเต็ม ทั้ง 120 สาขาทั่วประเทศ, สุกี้ตี๋น้อย และ บาร์บีคิวพลาซ่า เชิญนักกีฬาไทยทั้ง 51 คนที่สู้ศึกโอลิมปิก 2024 รับประทานมื้อบุฟเฟ่ต์ฟรี พร้อมผู้ติดตามคนละ 2 ท่าน

รัฐบาลมอบเงินรางวัลให้นักกีฬาและบุคลากรกีฬา

นอกจากเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติแล้ว รัฐบาลไทยยังเตรียมมอบเงินรางวัลให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาฯที่เข้าร่วมการแข่งขัน อีกคนละ 100,000 บาท ทั้งที่ได้รับเหรียญและไม่ได้รับเหรียญโอลิมปิก เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทุกคนกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติจะมอบเงินอัดฉีดให้กับบุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬาฯของนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลด้วย โดยสมาคมกีฬาฯจะได้รับในอัตรา 30% ของเงินรางวัลทั้งหมดที่นักกีฬาได้รับ สูงสุด 10,000,000 บาทบุคลากรกีฬาของสมาคมกีฬาฯ จะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ ประเภทบุคคลทั่วไป และประเภททีม นักกีฬาไม่เกิน 6 คน ได้รับเงิน 20% ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ และประเภททีม นักกีฬา 7 คนขึ้นไป ได้รับเงิน 10% ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ
See More